การติดตั้งม่าน

     การติดผ้าม่านทุกชนิดมีวิธีการที่คล้ายจนแทบจะเหมือนกันเลยคือ วัด ตัด เจาะ ติด แขวน ซึ่งม่านแต่ละชนิดอาจจะมีความแตกต่างกันบ้าง แต่ก็แค่เล้กน้อยเท่านั้น ส่วนใหญ่แล้วการติดตั้งม่านก็จะมีวิธีการหลักๆดังคลิปต่อไปนี้

สาธิตการติดม่าน

     ส่วนม่านที่มีวิธีการติดตั้งที่ต่างไปจากม่านธรรมดา คือ ม่านฉากหรือที่เราเรียกกันว่าฉากกั้นห้องนั่นเอง

  โดยจะมีวิธีการติดดังนี้ 

1.เนื่องจากเป็นม่านที่มีรางติดกับเพดาน จึงจำเป็นต้องทำการเจาะรูที่รางก่อนแล้วจึงนำไปทาบเพื่อกำหนดจุดที่จะเจาะ 

2.เจาะรูที่เพดานแล้วตอกพุก

3.ติดรางเข้ากับรูที่อยู่ตรงกลางสุดของรางเพียงตัวเดียว จะทำให้รางสามารถหมุนซ้ายขวาได้

4.หมุนเราไปทางใดทางหนึ่ง จากนั้นก็ค่อยๆเอาตัวฉากใส่เข้ากับราง

5.เมื่อใส่เส็ดแล้วก็หมุนรางให้รูทุกรูตรงกับจุดที่เจาะไว้ หลังจากนั้นก็ไขน๊อตยึดทุกจุดให้เรียบร้อย

6.เมื่อติดฉากเส็ดแล้วจึงค่อยมาติดที่เก็บฉากกับผนังห้อง เพียงเท่านี้เราก็จะได้ฉากกั้นห้องที่พร้อมสำหรับการใช้งาน

อุกรณ์เสริมต่างๆ

1. สายรวบผ้าม่าน

แบบแถบผ้าเรียบๆ

แบบพู่ ตุ้มเดี่ยว 

แบบพู่ ตุ้มคู่ ออกสไตล์หลุยส์ๆ

ผูกทำเป็นโบว์ก็ดูสวยหวาน

แบบผูกด้วยเชือกก็ได้

แบบผูกด้วยแถบผ้า

แบบผ้าคาด แต่เพิ่มแถบระบายลงไป

แบบใช้โซ่เป็นสายรวบ 

แบบใช้ตะขอแทนสายรวบ

2.ม่านกล่อง 

     คือการทำกล่องจากไม้หุ้มด้วยผ้า วอลเปเปอร์ หรือวัสดุอื่นๆ ใช้ครอบปิดตัวรางม่าน และอาจตกแต่งโดยนำชายครุยหรือชายผ้ามาติดเพื่อความสวยงาม โดยมีใช้ครอบปิดตัวรางม่าน

3.ตะขอม่าน 

แบบธรรมดา

แบบแฟชั่น

มีหลากหลายรูปแบบมาก

แบบที่ใช้แทนสายรวบม่าน

4.ชายครุย

     แบบผ้า

แบบคริสตัล

แบบพุ่ม

5.ด้ามจูง

ด้ามจูงอคีลิค

ด้ามจูงอลูมิเนียม

ด้ามจูงไม้จริง

ชนิดของราง

รางโชว์

     1.รางเหล็กดำ
ตัวราง ห่วงม่าน ขาจับ ทำจากเหล็กทำสีดำ (ทำสีพ่นและอบเหมือนสีรถ) หัวรางมีให้เลือกหลายแบบรางม่านแบบนี้มักใช้ตกแต่งบ้านสไตล์รีโท สไตล์โอเรียนทอล

     2.รางสแตนเลส
ตัวราง ห่วงม่าน ขาจับ ทำจากสแตนเลส มีทั้งสแตนเลสแท้ไม่ขึ้นสนิม เกรด A  ถ้าเป็นเกรด B-C ใช้ไปๆ จะขึ้นสนิม บางแบบเป็นรางเหล็กชุบโครเมี่ยมก็มี หัวรางมีให้เลือกหลายแบบ ตัวรางมีทั้งแบบสแตนเลสด้าน สแตนเลสเงา รางม่านแบบนี้มักใช้ตกแต่งบ้านสไตล์โมเดอร์น สไตล์วินเทจ

     3.รางไม้จริง 
ตัวราง ห่วงม่าน ขาจับ ทำจากไม้จริง ทำสีหลายสี เช่น สีไม้ธรรมชาติ สีโอ๊ค สีขาว เป็นต้นหัวมีหลายแบบให้เลือกตามความชอบหัวบางแบบเป็นหัวที่ทำจากเรซิน รางม่านแบบนี้มักใช้ตกแต่งบ้านสไตล์คลาสสิค สไตล์เนเจอร์

     4.รางอลูมิเนียมเคลือบพีวีซี ตัวรางทำจากเหล็กเคลือกด้วยพีวีซี  เลียนแบบสีไม้จริง สีขาว สีดำ สีเงิน สี   ทอง ห่วงม่านมักทำจากพลาสติก มีหลายสี  ขาจับ ทำจากเหล็กเคลือบสี มีทั้งสีดำ สีเงิน สีทอง ฯ รางม่านแบบนี้มักใช้ตกแต่งบ้านสไตล์โมเดอร์น 

รางไมโคร (รางตัวยู)
จะมีลักษณะคล้ายกับสีเหลี่ยม จะมีความลื่นไหลและคล่องตัวในการเปิดปิดสูง ปัจจุบันเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากเพราะมีราคาที่ไม่แพงจนเกินไปแต่สามารถใช้งานได้ในระยะยาว ใช้ได้เฉพาะกับม่านจีบเท่านั้น

รางตัวซี
ใช้ได้กับม่านแบบม่านจีบอย่างเดียวลักษณะคล้ายรางไมโครแต่ตัวรางจะบางกว่า ราคาถูกกว่ารางไมโคร เวลาปิดเปิดจะไม่คล่องตัวเหมือนรางไมโครส่วนใหญ่ใช้เชือกดึงเวลาปิดเปิดม่าน สำหรับคนที่มีงบทำม่านน้อยหรือมีงบจำกัด

รางโค้งดัดมือ
ใช้ได้กับม่านแบบม่านจีบอย่างเดียว คล้ายรางไมโครแต่บางกว่า ตัวรางทำจากอลูมิเนียมสามารถดัดโค้งได้เวลาทำผ้าม่านแบบที่ต้องเข้ามุม

รางม่านพับ
เป็นรางที่ใช้สำหรับม่านพับโดยเฉพาะ มีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยมยาว มีเชือกสองถึงสามเส้นไว้ร้อยตัวม่านพับ และมีเชือกเส้นหนา 1 เส้นใช้ดึงขึ้น-ลง ด้านหน้าของรางจะมีตีนตุ๊กแกไว้สำหรับติดเป็นปลายผ้าให้เรียบเข้ากับตัวราง

ชนิดของม่าน

ม่านพับ ในปัจจุบันจะนิยมม่านพับเนื่องจากสะดวกสบายในการเก็บ รวบเก็บง่าย ซึ่งทางร้านเราจะใส่ใจในลูกค้า โดยทำช่องพับผ้า ให้พอดี เก็บงาย ดึงไม่ติด นิยม ใช้กับหน้าต่าง เนื่องจากเนื้อที่หน้าต่างพอดีกับการเก็บไม่กว้างมากเกินไป   ช่วยให้ห้องดูโปร่งสบายตา

ม่านจีบ  เหมาะกับบริเวณที่ต้องการเก็บแสงมาก ๆ ม่านจีบ มักจะติด บานหน้าต่างหรือบานประตูกว้าง ๆ ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เช่น ม่านจีบ ห้องโฮมเธียเตอร์ ในห้องนอน  หรือตามต้องการของลูกค้า โดยจะใช้รางม่านจีบ   ได้หลายประเภท รางม่าน ระบบมือปัด รางม่าน ระบบเชือก หรือ รางโชว์ ซึ่งมีให้เลือกตามความพอใจของลูกค้าไม่ว่าจะเป็นรางประดับพีวีซีเคลือบลายไม้ รางเหล็ก รางไททาเนียม ฯลฯ

ม่านตาไก่   ม่านตาไก่น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับลูกค้าที่เบื่อรูปแบบม่านจีบแบบเดิมๆ ซึ่งม่านตาไก่จะมีลอนม่านที่ใหญ่กว่าแบบจีบ ลอนม่านจะอยู่ตัวเนื่องจากลอนม่านจะสลับลอนอยู่ในราง ดูแล้วสบายตา เรียบง่ายแต่ดูดี

ม่านคอกระเช้า   เหมาะกับลูกค้าที่ชอบแบบง่าย แต่ดูดี  เพราะผ้าม่านคอกระเช้า จะมีลักษณะคล้ายกับม่านจีบเพียงแต่การออกแบบที่หูจะทำด้วยผ้าแล้วใช้คล้องกับตัวราง ซึ่งจะเพิ่มความสวยงาม ดูดี และหรูหรา ให้กับบ้านของคุณเอง

ม่านหลุยย์   ลูกค้าที่ชอบความหรูหราเป็นพิเศษ ผ้าม่านหลุยย์นี่เหละที่เหมาะสมเพราะออกแบบดีไซน์ที่หรูหรามีระดับ สามารถโชว์ความสวยงามของผ้าม่านได้อย่างมีระดับไม่ว่าจะเป็นห้องรับขก ห้องโถง ห้องทำงาน หรือตามลูกค้าต้องการ เพิ่มความมีระดับและความหรูหราให้กับตัวบ้าน

ม่านปรับแสง   เหมาะสำหรับลูกค้าที่ชอบแบบโปร่งแสงสบายตา เป็นสไตล์โมเดิร์น มีความทันสมัยอยู่ในตัว ทำความสะอาดง่ายดูแลรักษาง่าย ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน หรือในตัวบ้าน มีผ้าให้เลือกตามความพึงพอใจของลูกค้า

ผ้าม่านม้วน   ม่าน ม้วน เหมาะกับลูกค้าที่ชอบแต่งบ้านสไตล์เรียบง่ายแต่ทันสมัย และไม่ชอบ ผ้าม่าน ม่านม้วน มีข้อดีที่ นอกจากป้องกันความร้อนแล้วยังลดความสว่างของแสงได้ดีอีกด้วย  ตามแต่ชนิดของ ม่านม้วน ม่านม้วน ใช้ง่ายสะดวก ปรับความสูงได้ตามที่ต้องการ ม่าน ทำความสะอาดง่าย ไม่ว่าจะเป็นในห้องนอน ห้องทำงาน  หรือ ออฟฟิตทั่ว ๆ ไป ม่านม้วน มีให้เลือกหลายรูปแบบหลายสี ตามที่ลูกค้าต้องการ         

ม่านคอกระเช้า เป็นอีกหนึ่งในจำนวนผ้าม่านที่เน้นความประหยัด เพราะใช้ผ้าทำม่านน้อย และสามารถถอดซักได้ด้วยตนเอง แต่ม่านชนิดนี้จะเหมาะกับรางโชว์เท่านั้น เพราะจะช่วยให้ม่านโดดเด่นขึ้นมาทันทีและดูสวยงามมากขึ้น อาจจะมีการแต่งตรงหูกระเช้าเป็นกระดุมหรือติดโบว์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของเจ้าของบ้าน

ม่านฉากหรือฉากกั้นห้อง จะแปลกกว่าม่านชนิดอื่นเพราะทำมาจากวัสดุที่เป็นไฟเบอร์ ใช้สำหรับกั้นระหว่างห้องต่างๆ ส่วนมากนิยมใช้ในการกันแอร์ไว้ในพื้นที่เฉพาะ เพื่อความประหยัดไฟในการใช้แอร์

มู่ลี่อลูมิเนียม

มู่ลี่ไม้

มู่ลี่ หรือ Blinds ก็ถือว่าเป็นผ้าม่านชนิดหนึ่งได้เหมือนกัน หรือเป็นของตกแต่งบ้านก็ได้ ส่วนมากใช้งานคล้ายผ้าม่านคือ ป้องกันแสงแดดและความร้อน หรือบังสิ่งต่างๆ ทั้งภายในและภายนอก มูลี่ในปัจจุบันก็สามารถปรับองศาการรับแสงได้เช่นเดียวกับม่านปรับแสง โดยทั่วไปมู่ลี่มีสองแบบคือ มู่ลี่ไม้  และมู่ลี่อลูมิเนียม

ประเภทของวัสดุที่ใช้ทำม่าน

ม่าน

ม่าน หลายท่านคงได้ยินติดหูเป็นประจำ บางคนอาจหมายถึงผ้าม่าน เพราะสิ่งที่ใช้ทำนั้นง่ายและสะดวกก็คือผ้าหลายคนคิดว่าม่านคือผ้าม่าน แต่จริงๆแล้วม่านคือทุกอย่างที่เอาไว้สามารถบังตาได้ ในประเทศจีนนิยมทำม่านจากไม้ไผ่ หรือที่เราเคยได้ยินว่าประเทศหลังม่านไผ่ หรือการพรางตัวด้วยควันก็เรียกว่าม่านควัน ฉะนั้นม่านไม่ได้หมายถึงผ้าเสมอไป       ในปัจจุบันม่านที่ใช้ในบ้านหรือที่ต่างๆนั้นมีหลายแบบหลายประเภทแล้วแต่ลักษณะการใช้งาน การเลือกวัสดุก็ต้องดูจากหลายปัจจัย ไม่ว่าการบังแสง กันแดด และอื่นๆ ดังนั้นม่านจึงทำจากวัสดุที่หลายอย่างตามความเหมาะสมในการใช้งาน

วัสดุที่ใช้

            ม่านมีหลายชนิดหลายรูปแบบ แต่ละแบบก็มีเอกลักษณ์ ความเหมาะสม อารมณ์ และบรรยากาศที่ต่างกัน หรือเพื่อคุณสมบัติบางอย่างที่ทำให้ม่านเป็นมากกว่าแค่คำว่าผ้าม่าน เนื่องจากม่านยังมีวัสดุอื่นที่นำมาใช้ทำ ไม่ว่าใช้ในเรื่องบังแดด กันแสง กันร้อน บังสายตา หรือเพื่อความสวยงาม ด้วยเหตุผลต่างๆทำให้ปัจจุบันม่านมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาขึ้นกว่าเมื่อก่อน เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ที่ไม่สิ้นสุดที่ต้องการความสวยงาม แตกต่าง และละทิ้งความจำเจ  ด้วยเหตุผลทุกประการทำให้วัสดุที่ใช้ทำม่านมีความหลากหลาย ดังนี้

1. ม่านที่ทำจาก ผ้า หรือที่เรียกว่าผ้าม่านนั่นเอง ด้วยความที่เป็นผ้าทำให้รู้สึกถึงความอ่อนนุ่ม อบอุ่น และอ่อนโยน ซึ่งก็เหมาะสมกับการนำมาใช้ในบ้านหรือที่พักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น และห้องอื่นๆ และผ้าม่านเองก็มีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ม่านจีบ ม่านพับ ม่านกล่อง ม่านคอกระเช้า หรือม่านตาไก่ แต่ละแบบก็จะให้อารมณ์และความรู้สึกที่แตกต่างกันไป

2. ม่านจาก วัสดุสังเคราะห์ เช่น ผ้าเคลือบคาร์บอน ไฟเบอร์ โพลีเอสเตอร์ ที่สามารถกันความร้อนแต่ยังทำให้แสงสามารถผ่านเข้ามาได้ เพราะมีคุณสมบัติที่กันแสงและกันความร้อน มีทั้ง ม่านม้วน ม่านปรับแสง และม่านกั้นห้องหรือที่รู้จักกันว่าฉากกั้นห้อง

โดยวัสดุเหล่ามีคุณสมบัติที่มีความเหมาะสมกับสถานที่ทำงาน หรือว่าออฟฟิส เพราะมีคุณสมบัติทั้งกันความร้อน แล้วยังเลือกได้อีกว่าต้องการให้แสงเข้าได้หรือไม่ เพราะวัสดุเหล่านี้มีทั้งกันแดดกันแสง และกันแดดแต่โปร่งแสง  ในการกันแสงก็สามารถเลือกได้ว่าต้องการประมาณไหน ทั้ง 70-80 เปอร์เซนต์ ไปจนถึง 100 เปอร์เซ็นต์ ความร้อนก็เช่นกัน  เนื่องจากวามโปร่งแสงนี้เองทำให้ไม่ต้องใช้ไฟมาก ดูไม่อึดอัด มีความเรียบง่าย และดูเป็นระเบียบนี้เอง ทำให้เป็นที่นิยมในสถานที่ทำงาน

3. ม่านที่ทำจากโละ ได้แก่ มู่ลี่  มีคุณสมบัติที่กันแสงและกันความร้อนคล้ายกับท่านที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ แต่จะมีจุดเด่นกว่าม่านจากวัสดุสังเคราะห์ตรงที่มีขนาดที่กะทัดรัด ไม่เปลืองเนื้อที่เพราะมีส่วนที่ยื่นออกมาจากตัวบ้านแค่เล็กน้อย เมื่อเก็บรวบแล้วก็ยิ่งเล็กจนบางครั้งกลมกลืนไปกับผนังบ้าน มีความสะดวกในการติดตั้งเลือกซ้อ เพราะไม่ต้องคำนึงถึงความยาว และที่เป็นจุดเด่นอีกอย่างคือสามารถปรับแสงได้ตามความต้องการของผู้ใช้ มู่ลี่เหมาะกับห้องทำงานที่มีขนาดเล็กและต้องการความเป็นส่วนตัวและชอบความเรียบง่าย

4. ม่านที่ทำจาก ไม้ เยื่อไม้ ไม้ไผ่ หรือวัสดุต่างๆจากธรรมชาติ โดยวัสดุเหล่านี้ส่วนมากนิยมนำไปทำเป็นม่านม้วน หรือมู่ลี่ จะให้ความรู้สึกที่คลาสสิค นุ่มนวล สบายๆ เหมาะสำหรับห้องที่ใช้พักผ่อนสบายๆ เช่น ห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่น หรือสถานที่เกี่ยวกับการบริการ เช่น สปา นวด สโมสร หรืออื่นๆ  ด้วยอารมณ์ที่เป็นธรรมชาติ เพราะทุกคนเมื่อยากพักผ่อนก็จะคิดถึงธรรมชาติ ม่านจากวัสดุธรรมชาติเหล่านี้จึงตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี  

ทั้งนี้การเลือกประเภทและวัสดุของม่านนั้น ก็ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมในการใช้งานเป็นหลักก่อนที่จะดุเรื่องความสวยงาม เพราะหากดูที่ความสวยงามก่อนอาจจะทำให้เราไม่ได้ม่านที่สะดวกต่อการใช้งานในที่นั้นๆ และอาจทำให้ม่านเกิดความชำรุดและเสียหายได้ เช่น การนำมู่ลี่ไม้ไปติดในห้องน้ำ เมื่อใช้ไปนานๆจะทำให้มู่ลี่ไม้พองเนื่องจากความชื้น ทำให้ไม่สามารถปิดเปิดได้ หรือเกิดความเสียหายนั่นเอง